การรักษาอาการปวดด้วยมอร์ฟีน (Morphine)

เพื่อให้ผู้ป่วยและญาติ ทราบเกี่ยวกับแนวทางรักษา อาการปวดโดยการใช้ยากลุมมอร์ฟีน

การใช้ยามอร์ฟีน

• ไม่ได้ทำให้โรคที่เป็นอยู่แย่ลง

• ช่วยให้อาการปวดลดลง

• ผู้ป่วยสามารถทำกิจวัตรประจำวันได้ดีขึ้น

• มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

• การแพทย์ยืนยันว่ามีความปลอดภัย

• มอร์ฟีนรักษาอาการปวดได้เกือบทุกชนิด

• ไม่จำเป็นต้องเป็นระยะสุดท้ายของชีวิต

• ใช้ในผู้ป่วยหลังผ่าตัด หรือปวดเรื้อรังทั่วไปก็ได้

คำแนะนำเมื่อได้รับการรักษาด้วยมอร์ฟีน

1. มอร์ฟีนใช้รักษา อาการปวด หรือ หอบ เหนื่อย

2. รับประทานตามเวลา และขนาดที่แพทย์กำหนด อย่างต่อเนื่อง เพื่อการควบคุม และปรับยาอย่างมีประสิทธิภาพ

3. หากต้องการหยุดยาควรปรึกษาแพทย์ ห้ามหยุดยาเอง

4. หากปวดมากขึ้นระหว่างวัน สามารถรับประทานยาเสริมได้ทุก 2 ชม. แต่หากใช้มากกว่า 2 ครั้ง/วัน ควรแจ้งแพทย์เพื่อปรับยาในขนาดที่เหมาะสม

5. ผู้ป่วยโรคไตสามารถใช้ได้ โดยเริ่มจากขนาดน้อย ค่อยๆเพิ่มที่ละช้าๆ ยกเว้นไตวายรุนแรง

6. ผลข้างเคียง

   • ท้องผูก (90%)  : มักเกิดกับทุกคน ควรใช้ยาระบายร่วมด้วย

   • คลื่นไส้ อาเจียน : อาจเกิดใน 1-2 สัปดาห์แรก สามารถใช้ยาแก้คลื่นใส้อาเจียนควบคู่ไป , หากนานเกิน 2 สัปดาห์ ต้องหาสาเหตุอื่น

     • ยา Haloperidol

   • ง่วงซึม: พบในช่วงแรก 1-3 วัน ของการเริ่มยา หรือเพิ่มขนาดยา จากนั้นจะดีขึ้น

   • การกดการหายใจ: หากใช้ตามคำสั่งแพทย์ โอกาสเกิดน้อยมาก

   • คัน (Itching) 7%

ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการติดยา

• การใช้มอร์ฟีนตามแพทย์สั่ง ไม่ทำให้ติดยา

• การติดยามักเกิดจากการใช้เพื่อความสุขทางอารมณ์ ไม่ใช่เพื่อบรรเทาอาการปวด